วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

หวังเจาจวิน "ปักษีตกนภา"







หวังเจาจวิน (อังกฤษ: Wang Zhaojun จีน: ???) ชื่อจริงคือ หวังเฉียง (อังกฤษ: Wang Qiangจีน: ??, ??, ??) เป็นหนึ่งในสี่หญิงงามแห่งแผ่นดินจีน
หวังเจาจวินได้รับฉายานามว่า "ปักษีตกนภา" (จีน: ?? พินอิน: lu? y?n) ซึ่งหมายถึง "ความงามที่ทำให้แม้แต่ฝูงนกยังต้องร่วงหล่นจากท้องฟ้า" (so beautiful as to make flying geese fall)
หวังเจาจวินเดิมเป็นนางกำนัลในวังหลวง ที่ฮ่องเต้ราชวงศ์ฮั่นส่งไปให้แก่ข่านของเผ่าซงหนู เพื่อกระชับสัมพันธ์ไมตรี
หวังเจาจวินเกิดในตระกูลผู้มั่งคัง ในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันตก เธอถูกส่งเข้าเป็นนางกำนัลในจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ ก่อน พ.ศ. 504หรือ 39ปีก่อนคริสตกาล อย่างไรก็ตาม พระจักรพรรดิไม่ทรงได้เคยพบเห็นหวังเจาจวินเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้ในยามที่พระจักรพรรดิทรงเลือกนางสนมใหม่จากภาพนางกำนัลที่ทรงมี และมีศักดิ์สูงพอที่จะเป็นพระสนม ภาพวาดของหวังเจาจวินก็ไม่ใช้ภาพที่นำเสนอความงามที่แท้จริงของนาง ดังนั้นพระจักรพรรดิจึงทรงมองข้ามนางไป
พ.ศ. 511หรือ 32ปีก่อนคริสตกาล หู ฮันเซีย ผู้นำเผ่าซงหนูเดินทางมาเยือนฉางอันตามธรรมเนียมระหว่างฮั่นและซงหนู เขาก็ถือโอกาสขอพระราชทานธิดาจากพระจักรพรรดิเพื่อที่จะผูกสัมพันธ์เป็นราชบุตรเขยของพระจักรพรรดิ แต่แทนที่พระจักรพรรดิจะทรงส่งพระธิดาให้หู ฮันเซียตามที่ขอมา กลับทางเลือกนางกำนัล 5 นางมาให้ผู้นำเผ่าซงหนูเลือกเอาเอง และหนึ่งในนั้นก็คือ หวังเจาจวิน
ใน Book of the Later Han กล่าวว่า หวังเจาจวินอาสาที่จะไปเชื่อมสัมพันธ์กับเผ่าซงหนูด้วยตัวเอง เมื่อนางได้ไปปรากฏตัวในท้องพระโรง ความงามของนางถึงกับสะกดขุนนางทั่วทั้งท้องพระโรง รวมทั้งพระจักรพรรดิด้วย จนพระองค์ถึงกับทบทวนแนวพระราชดำริที่จะส่งนางไปยังซงหนู
หวังเจาจวินกลายมาเป็นภริยาคนโปรดของหู ฮันเซีย มีลูกชายด้วยกัน 2คน คนหนึ่งดูเหมือนว่าจะมีชีวิตรอดมาได้ และมีลูกสาวอีกอย่างน้อย 1 คน พ.ศ. 513 หู ฮันเซียถึงแก่กรรม นางยื่นฎีกาถึงพระจักรพรรดิฮั่นฉางตี้ ขอเดินทางกลับฉางอัน แต่ทรงปฏิเสธและสั่งให้นางทำตามธรรมเนียมของชาวซงหนู คือตกเป็นภริยาของผู้นำคนใหม่ของเผ่าซงหนู ซึ่งก็คือพี่ชายคนโตของหู ฮันเซีย หลังการแต่งงานใหม่ เธอมีลูกสาวอีก 2คน
ยังมีตำนานอื่นที่กล่าวว่า หวังเจาจวินตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อหลีกเลี่ยงการแต่งงานกับลูกชายตัวเอง
เรื่องราวของเธอกลายมาเป็นตำนาน "การเดินทางของหวังเจาจวินสู่นอกด่าน" (????) และทำให้สันติภาพระหว่างซุงหนู กับจีนดำเนินมาได้ถึง 60 ปี อย่างไรก็ตาม ในที่สุดทางจีนก็ขาดการติดต่อกับเชื้อสายของเธอ
ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 3เป็นต้นมา เรื่องราวของเธอได้ถูกตบแต่งขึ้นมา และเธอถูกเล่าขานในลักษณะของวีรสตรีที่น่าสงสาร พรรคคอมมิวนิสต์จีน ใช้เรื่องราวของเธอเป็นสัญลักษณ์แห่งสายสัมพันธ์ระหว่างชาวฮั่นและชนชาติอื่นๆ ในจีน ปัจจุบันสุสานของเธอยังคงปรากฏในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น